วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หลัก 4

ศิลปะการดำรงชีวิต ต้องมี หลัก 4 เป็นวิชชาการทุกๆเรื่องที่หน้าที่ จะชัดเจน มั่นคง ว่องไว ต่อหน้าที่นั้นๆโดยความสงบสันติสุขทุกประการฯ

คนไทย

ทำไมคนไทย(ส่วนใหญ่)ขับรถราคาเป็นล้าน, แต่บ้านตัวเองไม่น่าอยู่เลย
ประเด็นก็คือ ผมรู้จักหลายคนที่ขับรถราคาล้านกว่า-สองล้านบาท ใช้มือถือไอโฟน แต่พอไปเยี่ยมเค้าที่บ้าน บ้านไม่น่าอยู่เลย ไม่ได้พูดถึงว่าเล็กหรือใหญ่นะครับ แต่หมายถึงการตกแต่งแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน และเครื่องใช้ภายในบ้าน ส่วนใหญ่เห็นแต่ทาสีกำแพงสีขาวหรือครีมไม่ติด wallpaper พื้นก็ปูกระเบื้องแผ่นเล็กราคาถูกไม่สวย ไม่ปูหินอ่อน หรือพรม เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็ design ธรรมดา ไม่สวยงาม แต่เน้นราคาถูก โซฟาก็เล็กไม่สวยไม่น่านั่ง โต๊ะเก้าอี้กินข้าว design ธรมมดา ฯลฯ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ แค่เป็นข้อสังเกตุว่าคนไทยชอบที่จะโชว์ออฟด้วยการขับรถหรูราคาแพง ใช้มือถือไฮเทค(ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้ function ครบ) ชอบใส่นาฬิการาคาแพง สรุปคือ ให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์รอบกาย แต่ไม่ให้ความสำคัญกับบ้านซึ่งเป็น ที่อยู่อาศัยและเป็นปัจจับสำคัญในการดำรงชีวิต ลองคิดดูว่าถ้าแทนที่จะซื้อรถราคาสองล้าน แต่ซื้อรถแค่ราคาหนึ่งล้าน แล้วเอาที่เหลือมาตกแต่งบ้านให้สวยงามน่าอยู่ จะดีกว่ามั้ยครับ เป็นไปได้หรือไม่ ว่าเมืองไทยไม่มีวัฒนธรรมในการเชิญเพื่อนฝูงหรือญาติมาสังสรรค์ที่บ้าน ส่วนใหญาจะนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารซะมากกว่า จึงไม่สนใจแต่งบ้านให้สวยเพื่อรับแขก ต่างกับในยุโรป ประเทศที่ผมกำลังอยูตอนนี้ เค้าแต่งบ้านกันสวยมาก ชอบไปซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้านสวยๆมาประดับบ้าน แต่เค้าไม่ขับรถกัน อาศัยนั่งรถเม รถไฟฟ้าหรือขี่จักรยานกัน และรถที่ขับก็เป็นรถเล็กๆปะมานjazz,yaris ราคาหกแสนบาท แต่สิ่งที่ต่างกับไทยก็คือ ห้างสรรพสินค้าที่นี่ไม่ใหญ่โตหรูหราเหมือน พารากอน เซนทรัลเวิร์ลด์ หรือ เอมโพเรียมบ้านเรา ห้างที่นี่คือห้างจริงๆ มาซื้อของจบ ไม่มีโรงหนัง โบวลิ่ง คาราโอเกะ ร้านอาหารหรูๆ แต่โรงหนัง หรือโบวลิ่ง จะสร้างต่างหากไม่อยู่ในห้าง ดังนั้นคนยุโรปจึงมีนิสัยติดบ้าน เลิกงานเสร็จก็กลับบ้านทันที ไม่ได้แสะเดินห้าง ดูหนังเหมือนคนไทย เค้าจึงชอบแต่งบ้าน และมักจะเชิญเพื่อนฝูงมาสังสรรค์ที่บ้านมากกว่านัดเจอกันที่ห้าง